ประสบการณ์การไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ Nong Lam University ประเทศเวียดนามของนาย พงศ์พสิน ชัยเขมรัชต์ และ นางสาว อิงอักษร รัตนสรรค์

สวัสดีครับทุกคนผมชื่อ นาย พงศ์พสิน ชัยเขมรัชต์ ชื่อเล่น “บิ๊ก” และเพื่อนของผมชื่อ นางสาว อิงอักษร รัตนสรรค์ ชื่อเล่น “อิง” นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร สำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตร  มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พวกเราสองคนได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนที่ Nong Lam University ประเทศเวียดนาม ภายใต้โครงการ ASEAN International Mobility for Students (AIMs) Programme เป็นระยะเวลาทั้งหมด 4 เดือน เพื่อไปทำวิจัยครับ


วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นวันที่พวกเราเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต ณ โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ของเวียดนาม อากาศ ผู้คน และเวลาของเวียดนามเหมือนกับไทยทุกอย่างต่างกันตรงที่ป้ายเป็นภาษาเวียดนามเท่านั้น เมื่อไปถึงก็เจอเพื่อนๆจาก Nong Lam University มายืนต้อนรับอย่างอบอุ่น หลังจากทักทายกันเรียบร้อยก็มีรสบัสของทางมหาวิทยาลัยมารับเพื่อไปส่งพวกเราที่พัก ตอนเย็นเพื่อนชาวเวียดนามพาไปซื้อข้าวมาทานที่บ้านซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นของที่นี่และเป็นครั้งแรกที่ได้รับประทานอาหารเวียดนามแท้ ซึ่งพวกเราจำชื่อเมนูนี้ไม่ได้แต่รู้แค่ว่ามันเป็นก๋วยเตี๋ยวที่มีน้ำซุปคล้ายปลาร้า กลิ่นแรง แต่ก็ต้องกินให้หมดเพราะกลัวเพื่อนเวียดนามเสียน้ำใจ

เช้าวันถัดมาเพื่อนเวียดนามก็บอกว่ามีข่าวร้ายจะบอกพวกเรา ข่าวร้ายก็คือทางมหาวิทยาลัย Nong Lam University ได้ทำการเลื่อนเปิดเทอมเนื่องจากรัฐบาลของเวียดนามมีความกังวลเกี่ยวกับ Covid-19 ซึ่งก็หมายความว่าพวกเราไม่สามารถเข้าไปทำงานในมหาวิทยาลัยได้เพราะห้องแลปล็อคหมดทำให้พวกเรามีเวลาว่าง ระหว่างที่รอทางมหาวิทยาลัยเปิดพวกเราและเพื่อนชาวเวียดนามได้มีโอกาสไปเที่ยวในเมือง พวกเราเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซต์ไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ จนเวลาผ่านไปเดือนนึงทางมหาวิทยาลัยก็ได้มีประกาศเพื่อเลื่อนเปิดเทอมไปอีกสองอาทิตย์ และในช่วงเวลานี้พวกเราก็มีนัดกับอาจารย์ของ Nong Lam University พวกเราได้ทำงานเกี่ยวกับการสำรวจผลิตภัณฑ์นมในตลาด ต้องเดินทางไปร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า รอบๆเมืองโฮจิมินท์ พวกเราสนุกมากที่ได้ไปทำงานและเที่ยวในที่ต่างๆ และการเดินทางเข้าเมืองไปทำงานบ่อยๆทำให้พวกเราตัดสินใจที่จะย้ายที่พักให้อยู่ใกล้ใจกลางเมืองเพื่อสะดวกต่อการเดินทาง ที่พักใหม่เป็นบ้านของพี่สาวของเพื่อนเวียดนาม(น้องเจมส์)ที่คอยดูแลพวกเรา เจ้าของบ้านนี้ใจดีมากๆ เจ้าของบ้านชอบที่จะทำกับข้าวให้กินบ่อยๆ มีกิจกรรมให้ทำทุกวันเพื่อไม่ให้เราเบื่อตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่ที่บ้าน อย่างเช่น การอบขนมปัง การทำพิซซ่า การทำซาลาเปา และอื่นๆอีกมากมาย รู้ตัวอีกทีน้ำหนักของพวกเราก็เพิ่มขึ้นแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป 2 เดือนกว่า Covid-19 รุนแรงมากยิ่งขึ้นทั้งในและต่างประเทศเป็นเหตุให้รัฐบาลเวียดนามออกกำหนดเคอร์ฟิวเหมือนประเทศไทย ทางมหาวิทยาลัยจึงขยายเวลาการเปิดเทอมอีกครั้งนึง จากเหตุการณ์ดังกล่าวพวกเราได้ปรึกษากับอาจารย์ทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเพราะคาดเดาไม่ได้ว่าสถานการณ์จะจบลงเพื่อให้พวกเราได้ทำงานอย่างปกติเมื่อไหร่ ทางสำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ทำการประชุมเพื่อแก้ปัญหา โดยการให้พวกเราสรุปงานของทาง Nong Lam University และทำงานที่มอบหมายจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเพิ่มเติม หลังจากการสรุปงานพวกเราได้จองตั๋วเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย แต่ก็มีปัญหามากมายเกิดขึ้นทำให้เราไม่สามารถเดินทางกลับกับสายการบินได้ โชคดีที่ทางสถานทูตไทย ณ กรุงโฮจิมินห์ ได้มีการทำแบบสอบถามคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อทางสถานทูตจะได้รวบรวมข้อมูลและจัดหาเที่ยวบินพิเศษให้ พวกเราได้ทำตามขั้นตอนของทางสถานทูตและเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 22 เมษายน 2563 การไปแลกเปลี่ยนครั้งนี้อาจจะไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่จากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดแต่ก็สามารถพูดได้เต็มปากว่ามันคือการเดินทางไปต่างแดนเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วัฒนธรรม อาหารการกิน และวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของไทยและเวียดนาม หากมีโอกาสพวกเราจะกลับไปอย่างแน่นอน

สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณ คณะอาจารย์จากทางมหาลัยแม่ฟ้าหลวง และ Nong Lam University ที่ให้คำปรึกษาเรื่องงานและคอยถามสภาพความเป็นอยู่ของพวกเรา ขอขอบคุณพี่หน่อยที่คอยรับโทรศัพท์เพื่อตอบคำถามเรื่องการดำรงชีวิตของพวกเรา ขอขอบคุณเจ้าของบ้านและน้องเจมส์ที่ดูแลเราทั้งอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย และอำนวยความสะดวกสบายเหมือนพวกเราเป็นคนในครอบครัวมาโดยตลอด ขอขอบพระคุณสถานทูตไทย ณ กรุงโฮจิมินห์ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ดำเนินการจัดหาเที่ยวบินพิเศษ อำนวยความสะดวกในการออกใบอนุญาติเดินทางและการตรวจสุขภาพ Fit to Fly ขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ โรงแรม Elegant Airport Hotel แพทย์ พยาบาล ทหาร ตำรวจ ที่ดูแลพวกเราให้ผ่านช่วงกักตัว 14 วันมาอย่างมีความสุข พวกเราดีใจที่ได้ผ่านประสบการณ์ดีดีในครั้งนี้มากครับ/ค่ะ

พวกเราได้รีวิวชีวิต,ที่เที่ยวและอาหารการกินส่วนมากก่อน Covid-19 รุนแรง ไว้ใน Facebook ค้นหา Hashtag #vnbgidairy นะคะ

บิ๊ก & อิง