เรื่องเล่าชีวิตในรั้ว มฟล. ของ ดร.สุกัญญา ถึงทุ่ง ศิษย์เก่ารุ่นที่ 11 สาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร

 

“แม่ฟ้าหลวง….หนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต”

แม่ฟ้าหลวง สถาบันการศึกษาที่ได้รับการลงคะแนนให้เป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในประเทศไทยและเอเชีย เชื่อว่าประโยคนี้คงคุ้นหูใครหลายๆ คน เมื่อนึกถึงมหาลัยแม่ฟ้าหลวง แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ!! นอกจากบรรยากาศที่ดีและสวยงามมากแล้ว เรื่องการเรียนการสอนของที่นี่ก็เด่นไม่แพ้กันนะคะ โดยเน้นการเรียนการสอนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในเกือบทุกรายวิชา ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราเลือกเรียนที่นี่เพราะอยากจะพัฒนาและฝึกทักษะภาษาอังกฤษของตัวเอง พร้อมกับการ challenge ตัวเองว่า เราจะรอด (จบการศึกษา) ไปได้รึเปล่า!!

ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนค่ะ ชื่อ นางสาวสกัญญา ถึงทุ่ง วิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร รุ่นที่ 11 และวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร (อีกเช่นกัน^^) สำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตรค่ะ ผู้ซึ่งเป็นคนสุโขทัยโดยกำเนิดและไม่ค่อยมีความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษเลย แต่ทางมหาวิทยาลัยก็มีความเข้าใจนักศึกษาในเรื่องนี้มาก โดยจัดให้มีการเข้าค่าย ‘How to live and learn’ ในช่วงก่อนเปิดเทอมปี 1 ซึ่งเป็นโครงการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนเพื่อให้เราปรับตัวและคุ้นเคยกับการเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อ ซึ่งต้องบอกว่าแม้จะผ่านการปรับพื้นฐานมาแล้ว แต่เมื่อเรียนจริงๆ ก็ต้องปรับตัวกันอีกเยอะเลยค่ะ เนื่องจากสาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหารเน้นการเรียนการสอนที่เข้มข้นทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ (การทำแลป) ตลอดทั้งปี 1 ถึง 4 อีกทั้งเป็นการเรียนแบบบูรณาการความรู้ทางด้านวิชาวิทยาศาสตร์และวิชาอื่นๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งด้วยหลักสูตรที่เข้มข้นและความเอาใจใส่ของอาจารย์ผู้สอนทุกท่าน ทำให้เรามีพื้นฐานความรู้ที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดการเรียนในระดับที่สูงขึ้นรวมถึงสามารถประยุกต์ใช้ในการทำวิจัยในรายวิชาปัญหาพิเศษอีกด้วย นอกจากนี้ในช่วงเทอมสุดท้ายของปี 4 เรายังได้รับโอกาสจากทางสำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตรเพื่อเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนไปทำวิจัยที่ Bogor Agricultural University (IPB) ประเทศอินโดนีเซีย ในโครงการทุน AIMS (ซึ่งในขณะนั้นใช้ชื่อว่า MIT) ซึ่งประสบการณ์ครั้งนี้ช่วยเปิดโลกทัศน์และเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในด้านวิชาการ วัฒนธรรม และสังคมการใช้ชีวิต รวมถึงได้พบเจอเพื่อนใหม่และเรื่องที่น่าตื่นเต้นอีกมากมาย

 

 

ตลอด 4 ปีแห่งการศึกษาจนสำเร็จปริญญาตรี หลายคนอาจคิดว่าพอแค่นี้ดีกว่าและออกไปหาประสบการณ์ในการทำงาน แต่ก็มีอีกหลายคนที่เลือกศึกษาต่อในระดับปริญญาโทรวมถึงตัวเราด้วย ซึ่งการเรียนต่อป.โทถือเป็นช่วงที่ทำให้เรามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นก็ว่าได้ ทั้งในด้านของความรับผิดชอบที่มีมากขึ้นและความอดทนไม่ย่อท้อต่อปัญหาต่างๆ นอกจากความรู้และประสบการณ์ที่ดีแล้ว เรายังได้รับโอกาสที่ดีจากอาจารย์ที่ปรึกษา (ผศ. ดร. จุฑามาศ นิวัฒน์) และสำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตร ในการไปทำวิจัยที่มหาวิทยาลัยชิบะ (Chiba University) ประเทศญี่ปุ่น เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ทำให้เราได้พัฒนาตนเองมากขึ้นและเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสที่ดีที่ได้รับในอนาคตอีกด้วย นั่นคือการได้รับทุนการศึกษาเรียนต่อในระดับปริญญาเอกที่ Graduate School of Horticulture มหาวิทยาลัยชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

 

 

หลังสำเร็จการศึกษาปริญญาเอกแล้ว ตอนนี้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับข้าวในตำแหน่ง Postdoctoral researcher ที่มหาวิทยาลัยชิบะ ประเทศญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งเป็นการทำงานที่สนุกและได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาอย่างเต็มที่ค่ะ อีกทั้งยังได้ต่อยอดพัฒนาความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับข้าวโดยเฉพาะการศึกษาการเปลี่ยนแปลงในระหว่างกระบวนการย่อยอาหาร ซึ่งเราได้เคยศึกษาวิจัยมาตั้งแต่ช่วงเรียนปริญญาโทและเอก

 

 

อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์การเรียนมาอย่างยาวนานร่วมเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ทำให้เราได้ข้อคิดที่ว่าความเพียรที่มาพร้อมกับการมีวินัยและความรับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับมอบหมายเป็นปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จ และอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือความอดทน เพราะในบางครั้งเราอาจมีช่วงเวลาท้อแท้ หมดหวัง แต่ถ้าเราไม่ย่อท้อต่อสภาวะปัญหาต่างๆ สุดท้ายแล้วความสำเร็จก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ

ด้วยรักและปรารถนาดี
สุกัญญา ถึงทุ่ง